หน้าหลัก > ข่าว > ประชาสัมพันธ์ > ๑๔ กุมภาพันธ์ วันมหาวิทยาลัยราชภัฏ
๑๔ กุมภาพันธ์ วันมหาวิทยาลัยราชภัฏ

admin pbh
2023-02-15 11:03:26

๑๔ กุมภาพันธ์ วันมหาวิทยาลัยราชภัฏ

วันที่ ๑๔ กุมภาพันธ์ ของทุกปี นอกจากจะเป็นวันแห่งความรักแล้ว ยังถือเป็นวันสำคัญของประวัติศาสตร์การศึกษาไทย และของชาวราชภัฏทั่วประเทศอีกด้วยอีกด้วย นั่นคือวันที่  ๑๔  กุมภาพันธ์   ๒๕๓๕   พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ ๙ ได้พระราชทานนาม  “สถาบันราชภัฏ”  แทน “วิทยาลัยครู” 

ทั้งนี้ เนื่องมาจากวิทยาลัยครูทั่วประเทศ ซึ่งปฏิบัติภารกิจภายใต้พระราชบัญญัติวิทยาลัยครู พ.ศ. ๒๕๑๘ ที่มีสาระสำคัญคือยกฐานะวิทยาลัยครูให้ผลิตครูได้ถึงชั้นปริญญา และ พรบ.วิทยาลัยครู  ฉบับที่ ๒ พ.ศ. ๒๕๒๗ ที่มีสาระสำคัญคือกำหนดบทบาทให้วิทยาลัยครูจัดการศึกษาเพื่อตอบสนองท้องถิ่น  ทำให้วิทยาลัยครูทั้ง ๓๖ แห่งได้มีการพัฒนารุดหน้าไปทุกๆด้าน จากเดิมที่เป็นเพียงการผลิตครูในระดับประกาศนียบัตร ก็ได้พัฒนาตนเองจนถึงขั้นผลิตครูระดับปริญญาบัณฑิต อันเป็นบุคคลระดับมันสมองของประเทศ แต่การพัฒนาก็มิได้หยุดยั้งเพียงเท่านั้น ระยะต่อมาได้พัฒนาถึงขั้นผลิตบัณฑิตสาขาวิชาต่างๆ ทั้งศิลปศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ได้เป็นผลสำเร็จ แต่ความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนและค่านิยมที่ไม่ถูกต้องของสังคม สร้างปัญหาวิกฤตที่ไม่สามารถแก้ไขได้ตามลำพังให้เกิดขึ้นแก่วิทยาลัยครู  ด้วยคนทั่วไปยังคงยึดติดว่าวิทยาลัยครูผลิตบัณฑิตเฉพาะสายครูเท่านั้น และเข้าใจผิดว่าบัณฑิตจากวิทยาลัยครูจะต้องประกอบวิชาชีพครูเพียงอย่างเดียว จุดนี้เองทำให้ผู้ที่จบการศึกษาในสายวิทยาศาสตรบัณฑิต (วท.บ.) และศิลปศาสตรบัณฑิต (ศศ.บ.) ขาดโอกาสในการได้งานทำ ก่อให้เกิดความรู้สึกอัปยศ น้อยเนื้อต่ำใจ ทั้งนี้ปัญหาทั้งหลายที่เกิดขึ้นเป็นเพราะความเข้าใจที่ผิดพลาดคลาดเคลื่อนของสังคมโดยแท้

กรมการฝึกหัดครู พยายามอย่างยิ่งที่จะหาแนวทางแก้ไขปัญหานี้ เริ่มจากแนวคิดที่จะแก้ไขพรบ.วิทยาลัยครูทั้งสองฉบับ ในสอดคล้องกับสภาพจริงของวิทยาลัยครูในสมัยนั้น รวมถึงชื่อ “วิทยาลัยครู” ที่เป็นส่วนสำคัญของปัญหา ก็ได้ถูกหยิบยกขึ้นมาพิจารณาหลายครั้ง แต่ก็ประสบปัญหาครั้งแล้วครั้งเล่า หลายฝ่ายมองเห็นว่าเป็นทางตัน และเริ่มรู้สึกท้อแท้ หมดกำลังใจ กรมการฝึกหัดครูเล็งเห็นปัญหาที่เกิดขึ้น จึงได้ดำริที่จะขอพระบารมีเป็นที่พึ่ง โดยขอพระราชทานนามใหม่แก่วิทยาลัยครู และเพื่อให้ได้ชื่อที่เหมาะสม จึงได้ระดมสมองคิดหาชื่อใหม่ที่ดีที่สุดส่งขึ้นไปเพื่อขอพระราชทานทูลเกล้าฯ ถวาย เพื่อขอให้ทรงมีพระบรมราชวินิจฉัยโปรดเกล้าฯ พระราชทานเป็นนามใหม่ของวิทยาลัยครูต่อไป

การสรรหาชื่อใหม่เป็นไปอย่างคึกคัก ในที่สุดคำว่า  “สถาบันราชพัฒนา”  เป็นคำที่ถูกใจคณะกรรมการมากที่สุด กรมการฝึกหัดครูจึงได้ทำหนังสือถึงสำนักราชเลขาธิการ เพื่อขอให้นำความขึ้นกราบบังคมทูลให้ทรงทราบถึงปัญหาความเดือดร้อนของวิทยาลัยครู และขอพระราชทานนามใหม่ว่า สถาบันราชพัฒนา หรือชื่ออื่นใดสุดแล้วแต่จะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทาน ในที่สุด โดยที่มิได้คาดคิดมาก่อน ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนาม “สถาบันราชภัฏ”  แก่วิทยาลัยครูทั่วประเทศ เมื่อวันที่ ๑๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๓๕ นับเป็นสิริมงคลอย่างยิ่ง

“ราชภัฏ”  เป็นคำที่มิมีผู้ใดคาดคิดมาก่อนว่าจะเป็นนามพระราชทาน  เป็นคำศัพท์ที่ทรงใช้พระบรมราชวินิจฉัยและทรงสรรหาด้วยพระองค์เอง แสดงให้เห็นว่าทรงสนพระราชหฤทัยในกิจการของวิทยาลัยครูอย่างแท้จริง นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณล้นพ้นหาที่สุดมิได้ “ราชภัฏ” เป็นศัพท์โบราณ มีความหมายตามพจนานุกรมว่า ข้าราชการ โดยนัยหมายถึงปราชญ์ของพระราชา เพราะผู้ที่จะสามารถรับใช้เบื้องพระยุคลบาท จะต้องเป็นผู้รอบรู้ มีสติปัญญาเฉียบแหลม นับได้ว่า “ราชภัฏ” นี้เป็นคำสูงส่ง เป็นเครื่องเตือนใจให้ระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ ซึ่งชาวมหาวิทยาลัยราชภัฏ ในฐานะสถาบันอุดมศึกษาเพื่อการพัฒนาท้องถิ่น สมควรจะเทิดไว้เหนือเกล้าและจงรักภักดีด้วยการตั้งปณิธานที่จะประพฤติ และปฏิบัติหน้าที่เจริญรอยตามเบื้องพระยุคลบาท สืบไป

 ...........................

บทความโดย...รวีโรจน์  สิงห์ลำพอง

มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา